คือการฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) เข้าไปบริเวณแก้มด้านบน โหนกแก้มหรือด้านหน้าของใบหู เพื่อทดแทนไขมันที่สลายและกระดูกที่ยุบตัวลง ช่วยพยุงโครงหน้า ทำให้เกิดการยกกระชับ ผิวกลับมาดูมีน้ำมีนวล เต่งตึง มีความยืดหยุ่น ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น ใบหน้ามีมิติ แลดูอ่อนกว่าวัย ทำให้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น แก้ปัญหาใบหน้าที่มีลักษณะเหี่ยวย่น ดูมีอายุ ขาดความชุ่มชื้น
สาเหตุการเกิดใบหน้าหย่อนคล้อย
- เกิดจากการมีอายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ชั้นเนื้อเยื่อ SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) เปลี่ยนไป เกิดการยุบตัวของชั้นผิวและโครงกระดูก เส้นเอ็น (Retaining Ligament) ที่ช่วยพยุงโครงสร้างของใบหน้าเกิดการหย่อนคล้อยลง อีกทั้งไขมัน (Fat Compartment) เกิดการหดตัวและมีปริมาณน้อยลง ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างไขมัน ส่งผลให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนคล้อยลงมากองบริเวณเหนือร่องแก้ม ผิวเหี่ยวย่น
- เกิดจากการสัมผัสความร้อน หรือถูกรังสียูวีจากแสงแดดเป็นประจำ ทำให้ผิวบางลงและเหี่ยวย่น
- เกิดจากสิ่งแวดล้อม และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การสูบบุหรี่หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น จึงส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์ใต้ชั้นผิวและกระบวนการทำงานของผิว ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหน้าหย่อนคล้อยและหมองคล้ำ
- เกิดจากการจัดฟัน ถอนฟัน ทำให้แก้มตอบและผิวไม่กระชับ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า
– ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ สดใส เป็นธรรมชาติ
– ทำให้ผิวบริเวณใบหน้าเต่งตึง กระชับ
– ทำให้บุคลิกภาพดีขึ้น เสริมสร้างความมั่นใจ
– ทำให้รูปหน้าได้สัดส่วน
– ทำให้กรอบหน้ายกขึ้น รูปหน้าเรียว เป็น V Shape
– ทำให้ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้าเหมาะกับ
- บุคคลที่มีปัญหาผิวบริเวณใบหน้าเหี่ยว หย่อนคล้อย ผิวขาดความชุ่มชื้น
- บุคคลที่มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย
- บุคคลที่มีปัญหากระดูกใบหน้ายุบ
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้าที่ชินวีย์ คลินิก
เนื่องจากบริเวณใบหน้าจะมีเส้นเอ็นและเส้นเลือดที่สำคัญเป็นจำนวนมาก การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้าจึงต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยแพทย์ผู้ทำหัตถการ ที่ชินวีย์ คลินิก มีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า มีความชำนาญเรื่องเส้นเลือดและกายวิภาค (Anatomy) เป็นอย่างดี สามารถวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและอธิบายข้อมูลให้กับคนไข้ได้อย่างละเอียด ฉีดในตำแหน่งและเทคนิคที่ถูกต้อง แก้ไขได้อย่างตรงจุด ใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม โดยการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า แพทย์จะฉีดเข้าไประหว่างรอยต่อของไขมัน (Fat Compartment) เพื่อทดแทนไขมันระดับลึก ทำให้ไขมันชิดติดกัน ผิวชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ยกกระชับขึ้น เส้นเอ็น (Retaining Ligament) ที่พยุงหน้ายกขึ้น ใบหน้าโดยรวมยกกระชับขึ้น แลดูอ่อนเยาว์ อย่างเป็นธรรมชาติ
อีกทั้งคลินิกที่ทำหัตถการยังได้มาตรฐาน สะอาด ได้รับอนุญาต มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุข มีความน่าเชื่อถือ นัดติดตามผลหลังทำทุกเคส ฟิลเลอร์ที่ใช้ทำหัตถการเป็นฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจาก อย.ประเทศไทย มีความคงตัว มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวหนัง เพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนัง ปลอดภัย 100% สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตราย
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่เกิดรอยแผลเป็น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดทันที หลังฉีดผลลัพธ์อยู่ได้ 1 ปี – 1 ปีครึ่ง (ขึ้นอยู่กับ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์)
ยี่ห้อ ราคา และปริมาณฟิลเลอร์ ที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า จะต้องใช้ฟิลเลอร์ชนิดที่มีความคงตัว เนื้อข้น เพื่อทำให้เกิดแรงยก พยุงผิวได้ดี โดยทั่วไปจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-1.5 cc ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคล
นิยมใช้ ฟิลเลอร์
แบรนด์ Juvederm รุ่น Voluma
ราคา 12,900 บาท / 1 CC
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า
ขั้นตอนที่ 1 แพทย์จะทำการประเมินสาเหตุ วิเคราะห์ปัญหาผิว สอบถามประวัติคนไข้เพิ่มเติม เช่น ประวัติการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า ประวัติการทำศัลยกรรมโครงหน้า โรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ และการแพ้ยา เป็นต้น หลังจากนั้นแพทย์จะทำการออกแบบและวางแผน เพื่อแนะนำยี่ห้อ รุ่นและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่ทำการรักษา
ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่จะทำการถ่ายภาพบริเวณที่จะทำการรักษา เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนที่ 3 แพทย์จะทำการตรวจสอบฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ โดยแสดงหลักฐานให้กับคนไข้ ดังนี้
– เลขทะเบียนอย.
– ป้ายภาษาไทยที่ข้างกล่อง
– เอกสารกำกับภาษาไทยที่อยู่ภายในกล่อง
– เลข Lot ของฟิลเลอร์
โดยเลข Lot ต้องตรงกัน 4 จุดสำหรับแบรนด์ Juvederm คือ เลข Lot ที่กล่อง, เลข Lot ที่ซอง, เลข Lot ที่สติกเกอร์ และ เลข Lot ที่หลอด
– แสดงเบอร์บริษัทยาเพื่อให้คนไข้สามารถโทรเช็คเกี่ยวกับการซื้อยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคลินิก
สำหรับแบรนด์ Juvederm คือ Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02-6404999 ต่อ 1
ขั้นตอนที่ 4 เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดบริเวณที่ทำหัตถการด้วย Micellar Cleaning Water และ น้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ขั้นตอนที่ 5 แพทย์จะทำการฉีดยาชา เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า
ขั้นตอนที่ 6 แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ โดยใช้เวลาทำหัตถการประมาณ 15 นาที
ขั้นตอนที่ 7 แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า
การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า
- งดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การซาวน่า, การอบไอน้ำ หรือ การออกกำลังกายหนัก (วิ่ง, ต่อยมวย, เต้นแอโรบิค) 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ เพราะจะทำให้ร่ายกายมีการสูบฉีดเลือดมากกว่าปกติ ส่งผลให้มีอาการปวด หรือบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ได้
- งดการรับประทานยากลุ่มแอสไพรินและกลุ่มNSAIDs เช่น Ibruprofen, Diclofenac หรือ Ponstan 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะยากลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
- งดการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น St. Johns Wort, Ginko Biloba, Primrose Oil, Garlic, Vitamin E, น้ำมันปลา หรือ Ginseng 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะวิตามินหรืออาหารเสริมกลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
- งดทายา ทาครีมชนิดผลัดเซลล์ผิว หรือสครับผิว ในบริเวณที่ทำหัตถการ เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids หรือGlycolic Acid 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เนื่องจากจะเป็นการรบกวนผิวบริเวณที่จะทำหัตถการ ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
- งดการเลเซอร์ในบริเวณที่ทำหัตถการ 3 วันก่อนทำหัตถการ
การดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเสียรูปทรงและเกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้
- หลีกเลี่ยงการจับ การแกะ การเกา การคลึงหรือการนวดในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้
- แนะนำดื่มน้ำเปล่า ภายหลังทำหัตถการใน 24 ชั่วโมงแรก โดยปริมาณที่แนะนำคือ 1.5-2 ลิตร/วัน หรือประมาณ 8-10 แก้ว/วัน เนื่องจากสาร HA มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เมื่อดื่มน้ำ โมเลกุลของน้ำจะไปจับกับโมเลกุลของสาร HA ทำให้ฟิลเลอร์ฟูสวย เป็นธรรมชาติและคงสภาพอยู่ได้นานขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เตาปิ้งย่าง เป็นต้น การโดนแสงแดดจัด การสัมผัสน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้และทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าระยะเวลาที่ควรจะเป็นตามปกติ
- หลีกเลี่ยงการอบไอน้ำ การซาวน่า การทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด และการทำ RF หรือ Ionto ในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า ทาแป้ง ทารองพื้น ทาครีมบำรุงในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 12 ชั่วโมง
- หลังฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า ในบางรายอาจมีอาการปวด บวม แดง หรือจับแล้วรู้สึกเจ็บในบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ โดยจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 3-7 วัน คนไข้สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการทานยาแก้ปวดหรือประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนใหญ่อาการเหล่านี้มักพบในบุคคลที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด, Aspirin, Alcohol, วิตามิน E หรือ อาหารเสริมบางชนิด เช่น Fish Oil หรือ Primrose เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยา วิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด ที่กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน, Vitamin E, ใบแป๊ะก๊วย และน้ำมันปลา เป็นต้น หลังทำหัตถการ 14 วัน เนื่องจากอาจส่งผลให้เลือดไหลหยุดช้าหรือช้ำง่ายกว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงการทาครีมที่มีส่วนผสมของ BHA, AHA (กรดผลไม้) และ Retinoid ในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
- งดการนอนราบ หลังทำหัตถการ 3 – 4 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด และอาหารดิบ หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดอาการบวม แดงหรืออักเสบได้
ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า
- หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีปัญหาเลือดไหลหยุดยาก หรือ บุคคลที่ต้องทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีประวัติแพ้ยาชา
- หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีภาวะอักเสบติดเชื้อผิวหนังบริเวณที่จะทำหัตถการ
สำหรับคนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้าที่ Chinnawee Clinic สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษาแพทย์ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ชินวีย์ คลินิก ยินดีให้บริการ