คือการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปใต้ผิวหนังชั้นลึกบริเวณร่องแก้ม เพื่อเติมเต็มร่องแก้ม แก้ปัญหาใบหน้าดูแก่กว่าวัย ร่องแก้มลึก ดูไม่สดใส มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ได้สัดส่วน ดูมีมิติ เป็นธรรมชาติ มีโหงวเฮ้งที่ดี
โดยลักษณะของร่องแก้มคล้อยหรือลึก คือ จะมีลักษณะเป็นเส้นยาวตั้งแต่บริเวณปีกจมูก โค้งลงมาถึงบริเวณมุมปากและมักจะลึกมากขึ้นเมื่อมีอายุเยอะขึ้น พบได้ทั้งในเพศหญิงและชาย
สาเหตุของร่องแก้มลึก
- เกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตาและบริเวณร่องแก้ม เมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป คอลลาเจนและอีลาสตินจะลดลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย แก้มห้อย ขาดความยืดหยุ่น เนื้อแก้มด้านบนจึงหย่อนลง เกิดร่องแก้มที่ลึกขึ้น
- เกิดจากผิวแห้ง เกิดจากปัจจัยเหล่านี้ เช่น คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดลง โครงสร้างของผิวเสื่อมลง อายุที่เพิ่มขึ้น รังสียูวีจากแสงแดด การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มชา หรือ การดื่มกาแฟ เป็นต้น ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ชั้นผิวบางลง โดยจะเห็นเป็นริ้วๆตื้นๆบริเวณร่องแก้ม
- เกิดจากการแสดงสีหน้าบ่อยๆ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ เป็นต้น ทำให้กล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป ทำให้เกิดริ้วรอย ร่องลึก ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
– ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส เป็นธรรมชาติ
– ทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ
– ทำให้ริ้วรอย ร่องลึกบริเวณร่องแก้มตื้นขึ้น
– ทำให้บุคลิกภาพดีขึ้น เสริมสร้างความมั่นใจ
– ทำให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน สวยงาม
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับ
- บุคคลที่ไม่ต้องการผ่าตัด เสริมร่องแก้ม
- บุคคลที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง
- บุคคลที่มีปัญหาใบหน้าดูแก่ก่อนวัย ดูไม่สดใส
- บุคคลที่มีปัญหาริ้วรอย ร่องแก้มลึก จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- บุคคลที่มีปัญหาแก้มตอบ ขมับลึก
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ชินวีย์ คลินิก
แพทย์ผู้ทำหัตถการ ที่ชินวีย์ คลินิก มีประสบการณ์ มีความชำนาญเรื่องเส้นเลือด กายวิภาค (Anatomy) และสรีระบนใบหน้าเป็นอย่างดี สามารถอธิบายข้อมูลให้กับคนไข้ได้อย่างละเอียด ฉีดด้วยเทคนิค ตำแหน่งและระดับชั้นผิวที่ถูกต้อง เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และสวยงามเป็นธรรมชาติ ซึ่งเทคนิคการฉีดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล เช่น
- ถ้าคนไข้มีปัญหาร่องแก้มลึกจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้ม แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค ฉีดที่ชั้นกระดูกใต้กล้ามเนื้อ และฉีดต่ำกว่าบริเวณร่องแก้มเล็กน้อย ทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ถ้าคนไข้มีปัญหาร่องแก้มลึกจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค ฉีดยกผิวในชั้นกระดูก เพื่อดึงโครงสร้างผิวโดยรวมขึ้น ทำให้เนื้อแก้มที่กองเป็นก้อนน้อยลง ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ถ้าคนไข้มีปัญหาร่องแก้มลึกจากการแสดงสีหน้าบ่อยๆ แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค ฉีดหนุนกล้ามเนื้อ เพื่อควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ถ้าคนไข้มีปัญหาร่องแก้มลึกจากผิวแห้งหรือการโดนแดดจัดบ่อยๆ แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค ฉีดเติมความชุ่มชื้นลงในชั้นผิวโดยตรง และใช้ฟิลเลอร์โมเลกุลเล็กเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเรียนเนียน เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
อีกทั้งคลินิกที่ทำหัตถการยังได้มาตรฐาน สะอาด ได้รับอนุญาต มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุข มีความน่าเชื่อถือ นัดติดตามผลหลังทำทุกเคส ฟิลเลอร์ที่ใช้ทำหัตถการเป็นฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจาก อย.ประเทศไทย มีความคงตัว มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวได้ดี เพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิว ปลอดภัย 100% สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตราย
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่มีแผล เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดทันที หลังฉีดผลลัพธ์อยู่ได้ 12-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์)
ยี่ห้อ ราคา และปริมาณฟิลเลอร์ ที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เนื่องจากผิวชั้นบนบริเวณร่องแก้ม มีความแห้งและบาง จึงต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้ออ่อน ทนต่อการขยับได้ดี มีความคงตัวสูง คงรูปได้ เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวและเรียบเนียนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยทั่วไปจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-4 cc ( ข้างละ 0.5-2 cc ) ขึ้นอยู่กับความลึกของร่องแก้มในคนไข้แต่ละบุคคล
นิยมใช้ ฟิลเลอร์
แบรนด์ Juvederm รุ่น Volift, Voluma, Ultra Plus
ราคา 12,900 บาท / 1 CC
แบรนด์ Restylane รุ่น Volyme
ราคา 11,900 บาท / 1 CC
แบรนด์ Neuramis Deep
ราคา 6,900 บาท / 1 CC
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ขั้นตอนที่ 1 แพทย์จะทำการประเมินลักษณะของใบหน้า ปัญหาผิว สาเหตุของการเกิดร่องแก้ม สอบถามประวัติคนไข้เพิ่มเติม เช่น ประวัติการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ประวัติการทำศัลยกรรมร่องแก้ม โรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ และการแพ้ยา เป็นต้น หลังจากนั้นแพทย์จะทำการออกแบบและวางแผน เพื่อแนะนำยี่ห้อ รุ่นและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่ทำการรักษา
ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่จะทำการถ่ายภาพบริเวณที่จะทำการรักษา เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์
ขั้นตอนที่ 3 แพทย์จะทำการตรวจสอบฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ โดยแสดงหลักฐานให้กับคนไข้ ดังนี้
– เลขทะเบียนอย.
– ป้ายภาษาไทยที่ข้างกล่อง
– เอกสารกำกับภาษาไทยที่อยู่ภายในกล่อง
– สติกเกอร์ โฮโลแกรม Galderma (สำหรับแบรนด์ Restylane เท่านั้น)
– เลข Lot ของฟิลเลอร์
โดยเลข Lot ต้องตรงกัน 4 จุดสำหรับแบรนด์ Juvederm คือ เลข Lot ที่กล่อง, เลข Lot ที่ซอง, เลข Lot ที่สติกเกอร์ และ เลข Lot ที่หลอด
โดยเลข Lot ต้องตรงกัน 2 จุดสำหรับแบรนด์ Restylane คือ เลข lot. ที่ข้างกล่อง และเลข lot. ที่หลอด
– แสดงเบอร์บริษัทยาเพื่อให้คนไข้สามารถโทรเช็คเกี่ยวกับการซื้อยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคลินิก
สำหรับแบรนด์ Juvederm คือ Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02-6404999 ต่อ 1
สำหรับแบรนด์ Restylane คือ Galderma โทร. 02-0231800 ต่อ 402
ขั้นตอนที่ 4 เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดบริเวณที่ทำหัตถการด้วย Micellar Cleaning Water และ น้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ขั้นตอนที่ 5 แพทย์จะทำการฉีดยาชา เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
ขั้นตอนที่ 6 แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ โดยใช้เวลาทำหัตถการประมาณ 20-30 นาที
ขั้นตอนที่ 7 แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- งดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การซาวน่า, อบไอน้ำ หรือ การออกกำลังกายหนัก (วิ่ง, ต่อยมวย, เต้นแอโรบิค) 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ
- งดการรับประทานยากลุ่มแอสไพรินและกลุ่มNSAIDs เช่น Ibruprofen, Diclofenac หรือ Ponstan 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะยากลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
- งดการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น St. Johns Wort, Ginko Biloba, Primrose Oil, Garlic, Vitamin E, น้ำมันปลา หรือ Ginseng 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะวิตามินหรืออาหารเสริมกลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
- งดทายาหรือทาครีมชนิดผลัดเซลล์ผิวในบริเวณที่ทำหัตถการ เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids หรือGlycolic Acid 3 วันก่อนทำหัตถการ
- งดการ Wax หรือการโกนขนในบริเวณที่ทำหัตถการ 3 วันก่อนทำหัตถการ
- งดการเลเซอร์ในบริเวณที่ทำหัตถการ 3 วันก่อนทำหัตถการ
การดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หลังทำหัตถการ 48 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ร่องแก้มเสียรูปทรงและเกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้
- หลีกเลี่ยงการจับ การแกะ การเกา การคลึงหรือการนวดในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ หลังทำหัตถการ 5 วัน เพราะอาจทำให้ร่องแก้มเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้
- แนะนำดื่มน้ำเปล่า ภายหลังทำหัตถการใน 24 ชั่วโมงแรก โดยปริมาณที่แนะนำคือ 1.5-2 ลิตร/วัน หรือประมาณ 8-10 แก้ว/วัน เนื่องจากสาร HA มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เมื่อดื่มน้ำ โมเลกุลของน้ำจะไปจับกับโมเลกุลของสาร HA ทำให้ฟิลเลอร์ฟูสวย เป็นธรรมชาติและคงสภาพอยู่ได้นานขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เตาปิ้งย่าง เป็นต้น การโดนแสงแดดจัด การสัมผัสน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้
- หลีกเลี่ยงการอบไอน้ำ การซาวน่า การทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก และการทำ RF หรือ Iontoในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
- หลีกเลี่ยงการทาแป้ง ทารองพื้น ทาครีมบำรุงหรือแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 12 ชั่วโมง
- หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ในบางรายอาจมีอาการปวด บวม แดง หรือจับแล้วรู้สึกเจ็บในบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ โดยจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 3-5 วัน คนไข้สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการทานยาแก้ปวดหรือประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนใหญ่อาการเหล่านี้มักพบในบุคคลที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด, Aspirin, Alcohol, วิตามิน E หรือ อาหารเสริมบางชนิด เช่น Fish Oil หรือ Primrose Oil เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยา วิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด ที่กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน, Vitamin E, ใบแป๊ะก๊วย และน้ำมันปลา เป็นต้น หลังทำหัตถการ 14 วัน เนื่องจากอาจส่งผลให้เลือดไหลหยุดช้าหรือช้ำง่ายกว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงการทาครีมที่มีส่วนผสมของ BHA, AHA (กรดผลไม้) และ Retinoidในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
- หลีกเลี่ยงการนอนราบ หลังทำหัตถการใน 4 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด และอาหารดิบ หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดอาการบวม แดงหรืออักเสบได้
ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีปัญหาเลือดไหลหยุดยาก หรือ บุคคลที่ต้องทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีประวัติแพ้ยาชา
- หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีภาวะอักเสบติดเชื้อผิวหนังบริเวณที่จะทำหัตถการ
สำหรับคนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ Chinnawee Clinic สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษาแพทย์ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ชินวีย์ คลินิก ยินดีให้บริการ