ฟิลเลอร์มือ (Hand Fillers)

 

คือการฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) เข้าไปบริเวณหลังมือ เติมความชุ่มชื้นในชั้นผิว ทำให้ผิวบริเวณหลังมือกระชับขึ้น เต่งตึง คืนความอ่อนเยาว์ ปรับรูปทรงมือให้สวย ผิวบริเวณหลังมือดูมีน้ำมีนวล เรียบเนียน นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งเหี่ยว แก้ปัญหามือที่มีลักษณะเหี่ยวย่น แห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแก้ปัญหาหลังมือที่เห็นเส้นเลือดหรือเส้นเอ็นปูดโปนอย่างชัดเจน ทำให้มือดูสุขภาพดี น่าสัมผัส มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ใส่แหวนสวยขึ้น

 

 

 

สาเหตุการเกิดมือแห้ง เหี่ยวหรือหลังมือมีเส้นเลือดปูดออกมาชัดเจน

 

 

  1. เกิดจากการมีอายุเพิ่มมากขึ้น ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ส่งผลให้ผิวบางลง หย่อนคล้อย แห้งกร้าน เกิดการเหี่ยวย่น เห็นเส้นเลือดหรือเส้นเอ็นบริเวณหลังมือชัดเจน
  2. เกิดจากการสัมผัสความร้อน หรือถูกรังสียูวีจากแสงแดดเป็นประจำ ทำให้ผิวบางลงและเหี่ยวย่น
  3. เกิดจากการถ่ายทอดยีนหรือพันธุกรรม ผิวหนังที่แห้งสามารถเกิดจากกรรมพันธุ์ได้ โดยการกลายพันธุ์ของยีนที่ควบคุมการผลิตโปรตีนที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้เกิดสภาวะผิวแห้งกร้านและบางแต่กำเนิด เห็นเส้นเลือดหรือเส้นเอ็นบริเวณหลังมือชัดเจน
  4. เกิดจากการใช้มือสัมผัสกับสารเคมีอยู่เป็นประจำ เช่น การล้างจาน การล้างมือด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นสูง รวมไปถึงการสัมผัสผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่น ๆ เป็นต้น ทำให้เกิดอาการแพ้สารเคมีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น เรตินอล กรดไกลโคลิก กรดซาลิไซลิก และเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ เป็นต้น ทำให้ผิวแห้งกร้าน
  5. เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การล้างมือบ่อยมากเกินไป หรือการล้างมือด้วยน้ำอุ่น ทำให้ผิวบริเวณหลังมือสูญเสียน้ำมันที่เคลือบผิวตามธรรมชาติไว้ ทำให้ผิวแห้งกร้าน
  6. เกิดจากอากาศแห้ง ในช่วงฤดูหนาวหรือการอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำเป็นประจำ เมื่ออากาศหนาว ส่งผลให้ระดับความชื้นในอากาศลดลง ทำให้ผิวแห้งกร้านได้
  7. เกิดจากร่างกายขาดน้ำ ทำให้ผิวแห้งได้
  8. เกิดจากโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน โรคเบาหวาน หรือต่อมไทรอยด์บกพร่อง เป็นต้น ทำให้ผิวเกิดอาการแห้งได้

 

 

 

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์มือ

 

 

–              ทำให้ผิวบริเวณหลังมือยืดหยุ่น แลดูอ่อนเยาว์ สดใส เป็นธรรมชาติ

–              ทำให้ผิวบริเวณหลังมือเต่งตึง กระชับ ลดความเหี่ยวย่นของหลังมือ

–             ทำให้บุคลิกภาพดีขึ้น เสริมสร้างความมั่นใจ

–             ทำให้ผิวบริเวณหลังมือชุ่มชื่น เรียบเนียน กระจ่างใส สวยงาม

–             ช่วยลดความเด่นชัดของเส้นเลือดและเส้นเอ็นบนหลังมือ

 

 

 

การฉีดฟิลเลอร์มือเหมาะกับ

 

 

  • บุคคลที่เมื่ออายุมากขึ้น พบปัญหาผิวบริเวณหลังมือเหี่ยว ผิวขาดความชุ่มชื้น
  • บุคคลที่มีปัญหาหลังมือเห็นเส้นเลือดหรือเส้นเอ็นชัดเจน ทำให้ผิวแลดูไม่เรียบเนียน ไม่สวยงาม

 

 

 

การฉีดฟิลเลอร์มือที่ชินวีย์ คลินิก

 

 

 

 

เนื่องจากบริเวณหลังมือผิวจะมีลักษณะบางและมีเส้นประสาท เส้นเลือด และเส้นเอ็นที่สำคัญเป็นจำนวนมากและเป็นตำแหน่งที่ Advance การฉีดฟิลเลอร์หลังมือจึงต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยแพทย์ผู้ทำหัตถการ ที่ชินวีย์ คลินิก มีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์ มีความชำนาญเรื่องเส้นเลือดและกายวิภาค (Anatomy) เป็นอย่างดี สามารถวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและอธิบายข้อมูลให้กับคนไข้ได้อย่างละเอียด ฉีดในตำแหน่งชั้นผิวและเทคนิคที่ถูกต้อง โดยการฉีดฟิลเลอร์หลังมือ แพทย์จะใช้เข็มปลายทู่ (Blunt Cannula) ในการฉีดเพื่อป้องกันฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด ฉีดเข้าไปบริเวณเหนือเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อบริเวณหลังมือ และใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ สวยงามเป็นธรรมชาติ ผิวเรียบเนียน เต่งตึง ดูสดใสและอ่อนเยาว์

 

อีกทั้งคลินิกที่ทำหัตถการยังได้มาตรฐาน สะอาด ได้รับอนุญาต มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุข มีความน่าเชื่อถือ นัดติดตามผลหลังทำทุกเคส ฟิลเลอร์ที่ใช้ทำหัตถการเป็นฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจาก อย.ประเทศไทย มีความคงตัว มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวหนัง เพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนัง ปลอดภัย 100% สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตราย

 

การฉีดฟิลเลอร์มือ เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่เกิดรอยแผลเป็น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดทันที หลังฉีดผลลัพธ์อยู่ได้ 8 -12 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์)

 

 

 

ยี่ห้อ ราคา และปริมาณฟิลเลอร์ ที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์มือ

 

 

การฉีดฟิลเลอร์หลังมือ จะต้องใช้ฟิลเลอร์ชนิดที่มีความยืดหยุ่น เนื้อเนียน ละเอียด เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวและเรียบเนียนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยทั่วไปจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-4 cc ขึ้นอยู่กับโครงสร้างชั้นผิวของคนไข้และปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคล

 

นิยมใช้ ฟิลเลอร์

 

แบรนด์ Juvederm รุ่น Volift

ราคา 12,900 บาท / 1 CC

 

แบรนด์ Restylane รุ่น Vital Light

ราคา 11,900 บาท / 1 CC

 

แบรนด์ Neuramis Deep

ราคา 6,900 บาท / 1 CC

 

 

 

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์มือ

 

 

ขั้นตอนที่ 1 แพทย์จะทำการประเมินสาเหตุ วิเคราะห์ปัญหาผิว สอบถามประวัติคนไข้เพิ่มเติม เช่น ประวัติการฉีดฟิลเลอร์มือ โรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ และการแพ้ยา เป็นต้น หลังจากนั้นแพทย์จะทำการออกแบบและวางแผน เพื่อแนะนำยี่ห้อ รุ่นและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่ทำการรักษา

 

ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่จะทำการถ่ายภาพบริเวณที่จะทำการรักษา เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์

 

ขั้นตอนที่ 3 แพทย์จะทำการตรวจสอบฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ โดยแสดงหลักฐานให้กับคนไข้ ดังนี้

 

– เลขทะเบียนอย.

– ป้ายภาษาไทยที่ข้างกล่อง

– เอกสารกำกับภาษาไทยที่อยู่ภายในกล่อง

– เลข Lot ของฟิลเลอร์

โดยเลข Lot ต้องตรงกัน 4 จุดสำหรับแบรนด์ Juvederm คือ เลข Lot ที่กล่อง, เลข Lot ที่ซอง, เลข Lot ที่สติกเกอร์ และ เลข Lot ที่หลอด

โดยเลข Lot ต้องตรงกัน 2 จุดสำหรับแบรนด์ Restylane คือ เลข lot. ที่ข้างกล่อง และเลข lot. ที่หลอด

– แสดงเบอร์บริษัทยาเพื่อให้คนไข้สามารถโทรเช็คเกี่ยวกับการซื้อยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคลินิก

สำหรับแบรนด์ Juvederm คือ Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02-6404999 ต่อ 1

สำหรับแบรนด์ Restylane คือ Galderma โทร. 02-0231800 ต่อ 402

 

ขั้นตอนที่ 4 เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดบริเวณที่ทำหัตถการด้วย Micellar Cleaning Water และ น้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 

ขั้นตอนที่ 5 เจ้าหน้าที่จะทำการทายาชาเพื่อระงับความรู้สึกในบริเวณที่ทำการรักษาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

 

ขั้นตอนที่ 6 แพทย์จะทำการฉีดยาชา เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีดฟิลเลอร์มือ

 

ขั้นตอนที่ 7 แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ โดยใช้เวลาทำหัตถการประมาณ 45-60 นาที

 

ขั้นตอนที่ 8 แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์มือ

 

 

 

การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์มือ

 

 

  1. งดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การซาวน่า, การอบไอน้ำ หรือ การออกกำลังกายหนัก (วิ่ง, ต่อยมวย, เต้นแอโรบิค) 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ เพราะจะทำให้ร่ายกายมีการสูบฉีดเลือดมากกว่าปกติ ส่งผลให้มีอาการปวด หรือบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ได้
  2. งดการรับประทานยากลุ่มแอสไพรินและกลุ่มNSAIDs เช่น Ibruprofen, Diclofenac หรือ Ponstan 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะยากลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
  3. งดการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น St. Johns Wort, Ginko Biloba, Primrose Oil, Garlic, Vitamin E, น้ำมันปลา หรือ Ginseng 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะวิตามินหรืออาหารเสริมกลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
  4. งดทายา ทาครีมชนิดผลัดเซลล์ผิว หรือสครับผิว ในบริเวณที่ทำหัตถการ เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids หรือGlycolic Acid 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เนื่องจากจะเป็นการรบกวนผิวบริเวณหลังมือ ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
  5. งดการเลเซอร์ในบริเวณที่ทำหัตถการ 3 วันก่อนทำหัตถการ

 

 

 

การดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์มือ

 

 

  1. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเสียรูปทรงและเกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้
  2. หลีกเลี่ยงการจับ การแกะ การเกา การคลึงหรือการนวดในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาได้
  3. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้
  4. แนะนำดื่มน้ำเปล่า ภายหลังทำหัตถการใน 24 ชั่วโมงแรก โดยปริมาณที่แนะนำคือ 1.5-2 ลิตร/วัน หรือประมาณ 8-10 แก้ว/วัน เนื่องจากสาร HA มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เมื่อดื่มน้ำ โมเลกุลของน้ำจะไปจับกับโมเลกุลของสาร HA ทำให้ฟิลเลอร์ฟูสวย เป็นธรรมชาติและคงสภาพอยู่ได้นานขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เตาปิ้งย่าง เป็นต้น การโดนแสงแดดจัด การสัมผัสน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้และทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าระยะเวลาที่ควรจะเป็นตามปกติ
  6. หลีกเลี่ยงการอบไอน้ำ การซาวน่า การทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก และการทำ RF หรือ Ionto ในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
  7. หลีกเลี่ยงการทาแป้ง ทารองพื้น ทาครีมบำรุงในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 12 ชั่วโมง
  8. หลังฉีดฟิลเลอร์มือ ในบางรายอาจมีอาการปวด บวม แดง หรือจับแล้วรู้สึกเจ็บในบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ โดยจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 5-10 วัน คนไข้สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการทานยาแก้ปวดหรือประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนใหญ่อาการเหล่านี้มักพบในบุคคลที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด, Aspirin, Alcohol, วิตามิน E หรือ อาหารเสริมบางชนิด เช่น Fish Oil หรือ Primrose เป็นต้น
  9. หลีกเลี่ยงการรับประทานยา วิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด ที่กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน, Vitamin E, ใบแป๊ะก๊วย และน้ำมันปลา เป็นต้น หลังทำหัตถการ 14 วัน เนื่องจากอาจส่งผลให้เลือดไหลหยุดช้าหรือช้ำง่ายกว่าปกติ
  10. หลีกเลี่ยงการทาครีมที่มีส่วนผสมของ BHA, AHA (กรดผลไม้) และ Retinoid ในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
  11. หลีกเลี่ยงการใส่เครื่องประดับ เช่น กำไลข้อมือ ถุงมือ เป็นต้น 24 ชั่วโมงหลังทำหัตถการ
  12. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด และอาหารดิบ หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดอาการบวม แดงหรืออักเสบได้

 

 

 

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์มือ

 

 

  1. หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
  2. หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีปัญหาเลือดไหลหยุดยาก หรือ บุคคลที่ต้องทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นประจำ
  3. หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีประวัติแพ้ยาชา
  4. หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีภาวะอักเสบติดเชื้อผิวหนังบริเวณที่จะทำหัตถการ

 

 

 

สำหรับคนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์มือที่ Chinnawee Clinic สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษาแพทย์ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

ชินวีย์ คลินิก ยินดีให้บริการ

 

 

 

Share:

More Posts