ฟิลเลอร์หน้าผาก (Forehead Fillers)

 

คือการฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) เข้าไปใต้ผิวหนังชั้นลึกบริเวณหน้าผาก เพื่อเติมเต็มหน้าผาก ปรับรูปทรงหน้าผากให้ได้สัดส่วน แก้ไขปัญหาหน้าผากแคบ หน้าผากต่ำ หน้าผากยุบ หน้าผากมีริ้วรอย ร่องลึก รอยบุ๋ม ใบหน้าที่ดูแก่กว่าวัย ดูไม่สดใส ทำให้หน้าผากเต็มสวย กว้าง อิ่มเอิบ เป็นธรรมชาติ เพิ่มความโดดเด่นบนใบหน้า ดูมีมิติ เสริมโหงวเฮ้ง เสริมความมั่นใจ ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ไร้รอยตำหนิจากแผลเป็นและริ้วรอย

 

โดยหน้าผากตามตำราโหงวเฮ้งจะบ่งบอกถึง สติปัญญา หน้าที่การงาน ความสำเร็จในชีวิต บารมี ทรัพย์และผู้อุปถัมภ์

 

โหงวเฮ้งหน้าผากที่ดี คือ หน้าผากที่กว้างได้มาตรฐานหรือมีขนาดเท่ากับฝ่ามือของตนเอง หน้าผากมีลักษณะโค้งมน นูน อิ่มเอิบ ไม่บุบ มีความเงาใส เกลี้ยงเกลา ซึ่งหน้าผากลักษณะนี้จะช่วยเสริมบารมี รับทรัพย์ เจริญรุ่งเรือง ได้รับการสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่และคู่ครอง วาสนาดี สติปัญญาดี การงานเจริญก้าวหน้า

 

โหงวเฮ้งหน้าผากที่ไม่ดี คือ หน้าผากที่ยุบ มีร่อง มีแผลเป็น มีริ้วรอย ไม่เรียบ เห็นกระดูกโปน ตามตำราโหงวเฮ้งจะเชื่อว่า จะพบเจอแต่อุบัติเหตุ เรื่องร้าย ขาดคนอุปถัมภ์ และไม่เจริญในหน้าที่การงาน เปลี่ยนงานบ่อย

 

 

 

ลักษณะหน้าผากที่แนะนำฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

 

 

  • หน้าผากแบน

เกิดจากลักษณะของโครงสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อนิ่ม (ผิวหนัง กล้ามเนื้อ และไขมัน) บริเวณหน้าผากยุบตัวลงจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้หน้าผากมีลักษณะแบน ดูไม่มีมิติ และขาดสมมาตรของใบหน้า

  • หน้าผากแคบ

เกิดจากอายุที่มากขึ้นหรือพันธุกรรม เมื่ออายุเพิ่มขึ้นกระดูกบริเวณกะโหลกและชั้นผิวจะบางลง ทำให้หน้าผากมีลักษณะแคบและใบหน้าดูไม่สมส่วน อีกทั้งเมื่อผิวบางลง จะทำให้เห็นริ้วรอยบริเวณหน้าผากชัดเจนขึ้นอีกด้วย

  • หน้าผากยุบ

เกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้ไขมันและกระดูกบริเวณหน้าผากยุบตัวลง จึงส่งผลให้หน้าผากยุบ กลายเป็นแอ่งเหนือคิ้ว ทำให้โหนกคิ้วเด่น ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ดูแก่กว่าวัย

  • หน้าผากมีริ้วรอย

เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้กระบวนการทำงานของเซลล์เสื่อมลง โครงสร้างผิวอ่อนแอ ทำให้เกิดริ้วรอย รอยย่นใบหน้าดูแก่กว่าวัย

 

 

 

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

 

 

–              ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส เป็นธรรมชาติ ได้สัดส่วน

–              ทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ ไร้ริ้วรอยและแผลเป็น

–             ทำให้บุคลิกภาพดีขึ้น เสริมสร้างความมั่นใจ

–             ทำให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียนสวยงาม

–             ทำให้มีโหงวเฮ้งที่ดี

 

 

 

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับ

 

 

  • บุคคลที่ไม่ต้องการผ่าตัด เสริมหน้าผาก
  • บุคคลที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง
  • บุคคลที่มีปัญหาใบหน้าดูแก่ก่อนวัย ดูไม่สดใส
  • บุคคลที่มีปัญหาหน้าผากแคบ แบน มีรอยบุบ รอยบุ๋ม
  • บุคคลที่มีรอยแผลเป็นหรือรอยตำหนิบริเวณหน้าผาก
  • บุคคลที่ต้องการปรับรูปทรงหน้าผาก ให้มีความอิ่มเต็ม สวย ดูมีมิติ ได้สัดส่วนรับกับใบหน้า
  • บุคคลที่มีปัญหาริ้วรอยบนหน้าผาก

 

 

 

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ชินวีย์ คลินิก

 

 

 

 

เนื่องจากบริเวณหน้าผากจะมีเส้นเลือดขนาดใหญ่ที่มีส่วนสัมพันธ์กับจอประสาทตา การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจึงต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยแพทย์ผู้ทำหัตถการ ที่ชินวีย์ คลินิก มีประสบการณ์ในด้านการปรับรูปหน้า มีความชำนาญเรื่องเส้นเลือด กายวิภาค (Anatomy) และสรีระบนใบหน้าเป็นอย่างดี สามารถอธิบายข้อมูลให้กับคนไข้ได้อย่างละเอียด ฉีดในตำแหน่งชั้นผิวและเทคนิคที่ถูกต้อง โดยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แพทย์จะฉีดที่ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก ซึ่งเป็นการเสริมในชั้นกระดูกขึ้นมา ใช้เข็มปลายทู่ (Blunt Cannula) ในการฉีดเพื่อป้องกันฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด และใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และสวยงามเป็นธรรมชาติ หน้าผากนูนสวย ดูละมุน เรียบเนียนได้สัดส่วน หน้าผากดูไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นก้อน ใบหน้าโค้ง มีมิติ

 

อีกทั้งคลินิกที่ทำหัตถการยังได้มาตรฐาน สะอาด ได้รับอนุญาต มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุข มีความน่าเชื่อถือ นัดติดตามผลหลังทำทุกเคส ฟิลเลอร์ที่ใช้ทำหัตถการเป็นฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจาก อย.ประเทศไทย มีความคงตัว มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวหนัง เพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนัง ปลอดภัย 100% สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตราย

 

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่มีแผล เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดทันที หลังฉีดผลลัพธ์อยู่ได้ 1 – 2 ปี (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์)

 

 

 

ยี่ห้อ ราคา และปริมาณฟิลเลอร์ ที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

 

 

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จะต้องใช้ฟิลเลอร์ชนิดเนื้อเนียน ละเอียด คงตัว เพื่อให้ฟิลเลอร์กระจายตัวและเรียบเนียนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากบริเวณหน้าผาก เป็นบริเวณที่มีเนื้อน้อย ผิวบาง โดยทั่วไปจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 4-6 cc ขึ้นอยู่กับโครงสร้างหน้าผากในคนไข้แต่ละบุคคลและรูปทรงที่ต้องการ

 

นิยมใช้ ฟิลเลอร์

 

แบรนด์ Juvederm รุ่น Volbella

ราคา 12,900 บาท / 1 CC

 

แบรนด์ Neuramis Deep

ราคา 6,900 บาท / 1 CC

 

 

 

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

 

 

ขั้นตอนที่ 1 แพทย์จะทำการประเมินลักษณะของใบหน้า ปัญหาผิว สอบถามประวัติคนไข้เพิ่มเติม เช่น ประวัติการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ประวัติการทำศัลยกรรมหน้าผาก โรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ และการแพ้ยา เป็นต้น หลังจากนั้นแพทย์จะทำการออกแบบและวางแผน เพื่อแนะนำยี่ห้อ รุ่นและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่ทำการรักษา

 

ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่จะทำการถ่ายภาพบริเวณที่จะทำการรักษา เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์

 

ขั้นตอนที่ 3 แพทย์จะทำการตรวจสอบฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ โดยแสดงหลักฐานให้กับคนไข้ ดังนี้

 

– เลขทะเบียนอย.

– ป้ายภาษาไทยที่ข้างกล่อง

– เอกสารกำกับภาษาไทยที่อยู่ภายในกล่อง

– เลข Lot ของฟิลเลอร์

โดยเลข Lot ต้องตรงกัน 4 จุดสำหรับแบรนด์ Juvederm คือ เลข Lot ที่กล่อง, เลข Lot ที่ซอง, เลข Lot ที่สติกเกอร์ และ เลข Lot ที่หลอด

– แสดงเบอร์บริษัทยาเพื่อให้คนไข้สามารถโทรเช็คเกี่ยวกับการซื้อยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคลินิก

สำหรับแบรนด์ Juvederm คือ Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02-6404999 ต่อ 1

 

ขั้นตอนที่ 4 เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดบริเวณที่ทำหัตถการด้วย Micellar Cleaning Water และ น้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 

ขั้นตอนที่ 5 แพทย์จะทำการฉีดยาชา เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

 

ขั้นตอนที่ 6 แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ ในระหว่างทำหัตถการ แพทย์จะปรับเตียงคนไข้ให้ได้ระดับ 45 องศา เพื่อให้ระดับศีรษะอยู่สูงกว่าระดับหัวใจ ป้องกันเลือดออกมากขณะทำหัตถการ โดยใช้เวลาทำหัตถการประมาณ 30-45 นาที

 

ขั้นตอนที่ 7 แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

 

 

 

การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

 

 

  1. งดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การซาวน่า, การอบไอน้ำ หรือ การออกกำลังกายหนัก (วิ่ง, ต่อยมวย, เต้นแอโรบิค) 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ
  2. งดการรับประทานยากลุ่มแอสไพรินและกลุ่มNSAIDs เช่น Ibruprofen, Diclofenac หรือ Ponstan 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะยากลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
  3. งดการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น St. Johns Wort, Ginko Biloba, Primrose Oil, Garlic, Vitamin E, น้ำมันปลา หรือ Ginseng 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะวิตามินหรืออาหารเสริมกลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
  4. งดทายาหรือทาครีมชนิดผลัดเซลล์ผิวในบริเวณที่ทำหัตถการ เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids หรือGlycolic Acid 3 วันก่อนทำหัตถการ
  5. งดการ Wax หรือการโกนขนในบริเวณที่ทำหัตถการ 3 วันก่อนทำหัตถการ
  6. งดการเลเซอร์ในบริเวณที่ทำหัตถการ 3 วันก่อนทำหัตถการ

 

 

การดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

 

 

  1. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้หน้าผากเสียรูปทรงและเกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้
  2. หลีกเลี่ยงการจับ การแกะ การเกา การคลึงหรือการนวดในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาได้
  3. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ หลังทำหัตถการ 3 วัน เพราะอาจทำให้หน้าผากเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้
  4. แนะนำดื่มน้ำเปล่า ภายหลังทำหัตถการใน 24 ชั่วโมงแรก โดยปริมาณที่แนะนำคือ 1.5-2 ลิตร/วัน หรือประมาณ 8-10 แก้ว/วัน เนื่องจากสาร HA มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เมื่อดื่มน้ำ โมเลกุลของน้ำจะไปจับกับโมเลกุลของสาร HA ทำให้ฟิลเลอร์ฟูสวย เป็นธรรมชาติและคงสภาพอยู่ได้นานขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เตาปิ้งย่าง เป็นต้น การโดนแสงแดดจัด การสัมผัสน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้
  6. หลีกเลี่ยงการอบไอน้ำ การซาวน่า การทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก และการทำ RF หรือ Ionto ในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
  7. หลีกเลี่ยงการทาแป้ง ทารองพื้น ทาครีมบำรุงหรือแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 12 ชั่วโมง
  8. หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ในบางรายอาจมีอาการปวด บวม แดง หรือจับแล้วรู้สึกเจ็บในบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ โดยจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 3-5 วัน คนไข้สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการทานยาแก้ปวดหรือประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนใหญ่อาการเหล่านี้มักพบในบุคคลที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด, Aspirin, Alcohol, วิตามิน E หรือ อาหารเสริมบางชนิด เช่น Fish Oil หรือ Primrose เป็นต้น
  9. หลีกเลี่ยงการรับประทานยา วิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด ที่กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน, Vitamin E, ใบแป๊ะก๊วย และน้ำมันปลา เป็นต้น หลังทำหัตถการ 14 วัน เนื่องจากอาจส่งผลให้เลือดไหลหยุดช้าหรือช้ำง่ายกว่าปกติ
  10. หลีกเลี่ยงการทาครีมที่มีส่วนผสมของ BHA, AHA (กรดผลไม้) และ Retinoid ในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
  11. หลีกเลี่ยงการนอนราบ หลังทำหัตถการใน 4 ชั่วโมงแรก
  12. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด และอาหารดิบ หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดอาการบวม แดงหรืออักเสบได้

 

 

 

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

 

 

  1. หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
  2. หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีปัญหาเลือดไหลหยุดยาก หรือ บุคคลที่ต้องทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นประจำ
  3. หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีประวัติแพ้ยาชา
  4. หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีภาวะอักเสบติดเชื้อผิวหนังบริเวณที่จะทำหัตถการ

 

 

 

สำหรับคนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ Chinnawee Clinic สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษาแพทย์ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

ชินวีย์ คลินิก ยินดีให้บริการ

 

 

Share:

More Posts