ฟิลเลอร์แก้มตอบ (Hollow Cheek Fillers)

 

คือการฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) เข้าไปบริเวณแก้ม เพื่อทดแทนในส่วนของเนื้อแก้มที่ยุบตัวลง ทำให้ร่องลึกหรือแอ่งบนใบหน้าตื้นขึ้น ผิวกระชับ โหนกแก้มเด่นน้อยลง ปรับรูปทรงใบหน้าให้สวย สมบูรณ์ ช่วยให้ใบหน้าโดยรวมอิ่มเอิบ เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ หวานละมุนและสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เสริมโหงวเฮ้ง มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

 

 

 

สาเหตุของการเกิดแก้มตอบ

 

 

  1. เกิดจากพันธุกรรม กระดูกส่วนกลางบริเวณแก้มยุบตัวลงมากเกินไป มักพบได้ตั้งแต่เกิด ส่งผลให้เนื้อบริเวณนั้นยุบตัวลงตามไปด้วย ทำให้กระดูกบริเวณโหนกแก้ม (Zygomatic Bone) ดูสูง แก้มดูตอบ ใบหน้าไม่สมส่วน ใบหน้าดุ
  2. เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุเยอะขึ้น คอลลาเจนและไขมันที่ช่วยพยุงใบหน้าไว้จะสลายไป กระดูกเกิดการยุบตัว โครงสร้างผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง ผิวมีการยุบตัว ส่งผลให้แก้มตอบลง ใบหน้ามีลักษณะเป็นหลุมหรือแอ่งยุบลงไป ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
  3. เกิดจากการลดน้ำหนักลงเร็วเกินไป ทำให้สูญเสียไขมันในปริมาณมาก ชั้นผิวยุบตัวลง ส่งผลให้แก้มดูตอบ ใบหน้าโทรม ไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย
  4. เกิดจากการจัดฟัน ที่ต้องถอนฟันออกเป็นจำนวนมาก เมื่อฟันถูกจัดเรียงใหม่ ส่งผลให้ลักษณะของช่องปากดูเล็กลง เกิดการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งการสบฟันและรูปแบบการเคี้ยว กล้ามเนื้อบางส่วนทำงานน้อยลง เนื้อริมฝีปากยุบ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมีขนาดเล็กลง หน้าดูตอบลง โหนกแก้มดูเด่นชัดขึ้น
  5. เกิดจากการฉีดโบท็อกกราม โดยใช้ปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามเล็กลงมากเกินไป ส่งผลให้แก้มดูตอบลง
  6. เกิดจากพฤติกรรมต่าง ๆในชีวิตประจำวัน เช่น การสูบบุหรี่ หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

 

 

 

ฟิลเลอร์แก้มตอบเสริมโหงวเฮ้ง

 

 

โหงวเฮ้งแก้มที่ดี คือ แก้มที่มีลักษณะอิ่มเอิบ รับกับแนวกราม แก้มไม่ตอบ ผิวไม่หย่อนคล้อย แก้มที่มีลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีบริวารที่ดี ซื่อสัตย์ และสุขสบายในบั้นปลายชีวิต

 

 

 

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

 

 

–              ทำให้ใบหน้าสวย แลดูอ่อนเยาว์ เป็นธรรมชาติ

–             ทำให้บุคลิกภาพดีขึ้น เสริมสร้างความมั่นใจ

–             ทำให้ร่องลึกและริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียน ฉ่ำวาว

–             ทำให้รูปหน้าสมส่วน ดูมีมิติ

–             ทำให้ลดความเด่นของโหนกแก้มลง

 

 

 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเหมาะกับ

 

 

  • บุคคลที่มีปัญหาแก้มตอบ หรือเนื้อบริเวณแก้มมีลักษณะเป็นแอ่งยุบลงไป
  • บุคคลที่มีปัญหาใบหน้าโทรม ไม่สดใส ไม่เอิบอิ่ม
  • บุคคลที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง
  • บุคคลที่มีปัญหาโหนกแก้มสูง ทำให้ดูมีอายุ ใบหน้าดูดุ ไม่หวานละมุน
  • บุคคลที่มีปัญหาสัดส่วนของใบหน้าไม่มีความสมดุล
  • บุคคลที่มีปัญหาไม่มีเนื้อแก้ม

 

 

 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ที่ชินวีย์ คลินิก

 

 

 

 

 

เนื่องจากบริเวณแก้มตอบจะมีเส้นเลือดที่สำคัญเป็นจำนวนมาก อีกทั้งผิวบริเวณดังกล่าวมีลักษณะบางและมีชั้นไขมันน้อย การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจึงต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยแพทย์ผู้ทำหัตถการ ที่ชินวีย์ คลินิก มีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า มีความชำนาญเรื่องเส้นเลือดและกายวิภาค (Anatomy) เป็นอย่างดี สามารถวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาและอธิบายข้อมูลให้กับคนไข้ได้อย่างละเอียด ฉีดในตำแหน่งชั้นผิวและเทคนิคที่ถูกต้อง โดยการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ แพทย์จะใช้เข็มปลายทู่ (Blunt Cannula) ในการฉีดเพื่อป้องกันฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด และใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน สวยงามเป็นธรรมชาติ แก้มไม่เป็นก้อน

 

อีกทั้งคลินิกที่ทำหัตถการยังได้มาตรฐาน สะอาด ได้รับอนุญาต มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุข มีความน่าเชื่อถือ ฟิลเลอร์ที่ใช้ทำหัตถการเป็นฟิลเลอร์แท้ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ผ่านการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจาก อย.ประเทศไทย มีความคงตัว มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เพิ่มเส้นใยคอลลาเจนให้กับผิว เติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ผิวหนัง เพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนัง ปลอดภัย 100% สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตราย

 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่เกิดรอยแผลเป็น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดทันที หลังฉีดผลลัพธ์อยู่ได้ 1 ปี – 1 ปีครึ่ง (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์)

 

 

 

ยี่ห้อ ราคา และปริมาณฟิลเลอร์ ที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

 

 

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ จะต้องใช้ฟิลเลอร์ชนิดที่มีความคงตัวสูง เนื้อเนียน ละเอียด กระจายตัวได้ดี เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าไปเพิ่ม Volume และเรียบเนียนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยทั่วไปจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-4 cc ขึ้นอยู่กับโครงสร้างชั้นผิวและปัญหาความตอบของคนไข้แต่ละบุคคล

 

นิยมใช้ ฟิลเลอร์

 

แบรนด์ Juvederm รุ่น Voluma, Volift

ราคา 12,900 บาท / 1 CC

 

แบรนด์ Neuramis Deep

ราคา 6,900 บาท / 1 CC

 

 

 

ขั้นตอนการฉีดฟิลแก้มตอบ

 

 

ขั้นตอนที่ 1 แพทย์จะทำการประเมินสาเหตุของปัญหา วิเคราะห์สภาพผิว สอบถามประวัติคนไข้เพิ่มเติม เช่น ประวัติการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ โรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำและการแพ้ยา เป็นต้น หลังจากนั้นแพทย์จะทำการออกแบบและวางแผน เพื่อแนะนำยี่ห้อ รุ่นและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่ทำการรักษา

 

ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่จะทำการถ่ายภาพบริเวณที่จะทำการรักษา เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์

 

ขั้นตอนที่ 3 แพทย์จะทำการตรวจสอบฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้มั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ โดยแสดงหลักฐานให้กับคนไข้ ดังนี้

 

– เลขทะเบียนอย.

– ป้ายภาษาไทยที่ข้างกล่อง

– เอกสารกำกับภาษาไทยที่อยู่ภายในกล่อง

– เลข Lot ของฟิลเลอร์

โดยเลข Lot ต้องตรงกัน 4 จุดสำหรับแบรนด์ Juvederm คือ เลข Lot ที่กล่อง, เลข Lot ที่ซอง, เลข Lot ที่สติกเกอร์ และ เลข Lot ที่หลอด

– แสดงเบอร์บริษัทยาเพื่อให้คนไข้สามารถโทรเช็คเกี่ยวกับการซื้อยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคลินิก

สำหรับแบรนด์ Juvederm คือ Allergan Thailand (DKSH) โทร. 02-6404999 ต่อ 1

 

ขั้นตอนที่ 4 เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดบริเวณที่ทำหัตถการด้วย Micellar Cleaning Water และ น้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 

ขั้นตอนที่ 5 เจ้าหน้าที่จะทำการทายาชาเพื่อระงับความรู้สึกในบริเวณที่ทำการรักษาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

 

ขั้นตอนที่ 6 แพทย์จะทำการฉีดยาชา เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นขณะฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

 

ขั้นตอนที่ 7 แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ โดยใช้เวลาทำหัตถการประมาณ 60 นาที

 

ขั้นตอนที่ 8 แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

 

 

 

การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

 

 

  1. งดดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การซาวน่า, การอบไอน้ำ หรือ การออกกำลังกายหนัก (วิ่ง, ต่อยมวย, เต้นแอโรบิค) 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ เพราะจะทำให้ร่ายกายมีการสูบฉีดเลือดมากกว่าปกติ ส่งผลให้มีอาการปวด หรือบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ได้
  2. งดการรับประทานยากลุ่มแอสไพรินและกลุ่มNSAIDs เช่น Ibruprofen, Diclofenac หรือ Ponstan 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะยากลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
  3. งดการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด เช่น St. Johns Wort, Ginko Biloba, Primrose Oil, Garlic, Vitamin E, น้ำมันปลา หรือ Ginseng 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพราะวิตามินหรืออาหารเสริมกลุ่มนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไหลหยุดยาก ขณะฉีดฟิลเลอร์
  4. งดทายา ทาครีมชนิดผลัดเซลล์ผิว หรือสครับผิว ในบริเวณที่ทำหัตถการ เช่น Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids หรือGlycolic Acid 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เนื่องจากจะเป็นการรบกวนผิวบริเวณที่ทำหัตถการ ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
  5. งดการเลเซอร์ในบริเวณที่ทำหัตถการ 3 วันก่อนทำหัตถการ

 

 

 

การดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

 

 

  1. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเสียรูปทรงและเกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้
  2. หลีกเลี่ยงการจับ การแกะ การเกา การคลึงหรือการนวดในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาได้
  3. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้
  4. แนะนำดื่มน้ำเปล่า ภายหลังทำหัตถการใน 24 ชั่วโมงแรก โดยปริมาณที่แนะนำคือ 1.5-2 ลิตร/วัน หรือประมาณ 8-10 แก้ว/วัน เนื่องจากสาร HA มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เมื่อดื่มน้ำ โมเลกุลของน้ำจะไปจับกับโมเลกุลของสาร HA ทำให้ฟิลเลอร์ฟูสวย เป็นธรรมชาติและคงสภาพอยู่ได้นานขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น ไดร์เป่าผม เตาปิ้งย่าง เป็นต้น การโดนแสงแดดจัด การสัมผัสน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 2 วัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการแดงบริเวณที่ฉีดได้และทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าระยะเวลาที่ควรจะเป็นตามปกติ
  6. หลีกเลี่ยงการอบไอน้ำ การซาวน่า การทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด และการทำ RF หรือ Ionto ในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
  7. หลีกเลี่ยงการทาแป้ง ทารองพื้น ทาครีมบำรุงในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 12 ชั่วโมง
  8. หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ในบางรายอาจมีอาการปวด บวม แดง หรือจับแล้วรู้สึกเจ็บในบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นปกติ โดยจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 2-3 วัน คนไข้สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการทานยาแก้ปวดหรือประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนใหญ่อาการเหล่านี้มักพบในบุคคลที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด, Aspirin, Alcohol, วิตามิน E หรือ อาหารเสริมบางชนิด เช่น Fish Oil หรือ Primrose เป็นต้น
  9. หลีกเลี่ยงการรับประทานยา วิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด ที่กระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน, Vitamin E, ใบแป๊ะก๊วย และน้ำมันปลา เป็นต้น หลังทำหัตถการ 14 วัน เนื่องจากอาจส่งผลให้เลือดไหลหยุดช้าหรือช้ำง่ายกว่าปกติ
  10. หลีกเลี่ยงการทาครีมที่มีส่วนผสมของ BHA, AHA (กรดผลไม้) และ Retinoid ในบริเวณที่ฉีด หลังทำหัตถการ 14 วัน
  11. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง อาหารรสจัด และอาหารดิบ หลังทำหัตถการ 7 วัน เพราะอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดอาการบวม แดงหรืออักเสบได้
  12. หลีกเลี่ยงการนอนทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ หลังทำหัตถการ 3 วัน เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้

 

 

 

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

 

 

  1. หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
  2. หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีปัญหาเลือดไหลหยุดยาก หรือ บุคคลที่ต้องทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นประจำ
  3. หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีประวัติแพ้ยาชา
  4. หลีกเลี่ยงในบุคคลที่มีภาวะอักเสบติดเชื้อผิวหนังบริเวณที่จะทำหัตถการ

 

 

 

สำหรับคนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ Chinnawee Clinic สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษาแพทย์ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

ชินวีย์ คลินิก ยินดีให้บริการ

 

 

Share:

More Posts