แผลเป็นคีลอยด์ (Keloid) หรือแผลเป็นนูน
คือ แผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังจากที่แผลหายดีแล้ว บางครั้งอาจใช้ระยะเวลา 4 – 12 เดือนหลังแผลหายดี แผลเป็นคีลอยด์ถึงจะก่อตัวขึ้นมา โดยแผลจะมีการขยายขนาดใหญ่กว่ารอยแผลเดิมที่เกิดขึ้น มีลักษณะนูน แข็ง หรือหยุ่นคล้ายยาง ผิวมัน เงา และไม่มีขนขึ้น สีแตกต่างกันตามสภาพสีผิวแต่ละบุคคล พบได้ตั้งแต่สีชมพู แดง ถึงน้ำตาลเข้ม บางรายอาจมีเส้นเลือดมาเลี้ยงบริเวณรอบแผลเป็น และรู้สึก เจ็บ คัน ระคายเคือง อีกทั้งยังส่งผลกระทบถึงเรื่องภาพลักษณ์อีกด้วย คีลอยด์สามารถเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยส่วนใหญ่มักขึ้นตาม หน้าอก หัวไหล่ หลัง ลำคอ และหู
สาเหตุของการเกิดแผลเป็นคีลอยด์
เกิดมาจากความผิดปกติของกระบวนการรักษาแผลตามธรรมชาติของร่างกาย โดยปกติผิวหนังจะมีการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนเพื่อซ่อมแซมบาดแผล แต่หากกระบวนการนี้ทำงานมากจนเกินไป กล่าวคือ ผิวหนังมีการสร้างเนื้อเยื่อซ่อมแซมที่มากเกินไป เกิดการสะสมของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันและคอลาเจนบริเวณนั้น ทำให้แผลเป็นบริเวณดังกล่าวมีลักษณะกว้างและนูนขึ้น ขนาดของแผลจะกว้างกว่าแผลเดิม และมีแนวโน้มที่จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยจะก่อตัวขึ้นหลังจากที่มีบาดแผลบริเวณผิวหนัง ซึ่งแผลเป็นคีลอยด์จะแตกต่างจากแผลเป็นทั่วไป ตรงที่แผลเป็นส่วนใหญ่จะค่อยๆ จางหายได้เองตามธรรมชาติ แต่แผลเป็นคีลอยด์จะค่อยๆ ขยายขนาดใหญ่และนูนขึ้นกว่าแผลเดิม
ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดแผลเป็นนูน เช่น การเป็นสิว , การเจาะหู , การปลูกฝี , การผ่าตัด , การผ่าคลอด , การถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก , การถูกของมีคมบาด และจากการเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น
การรักษาแผลเป็นคีลอยด์
แผลเป็นคีลอยด์มักจะไม่ยุบหรือหายไปเอง จำเป็นต้องมีวิธีรักษาที่จำเพาะ ที่ชินวีย์คลินิก ทำการรักษาด้วยวิธีการฉีด เพื่อลดขนาดและการอักเสบของแผล ซึ่งแพทย์จะฉีดยาในบริเวณที่เป็นแผลเป็นคีลอยด์ โดยคนไข้ควรทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ ต่อ ครั้ง เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
แผลเป็นคีลอยด์เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยส่วนใหญ่ มักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก (ในวัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์จะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้ง่ายกว่าวัยอื่นๆ) และ พันธุกรรม โดยผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นแผลเป็นคีลอยด์ จะมีโอกาสเกิดได้มากกว่าผู้ที่ไม่เคยมีประวัติ อย่างไรก็ตามหากแผลเป็นคีลอยด์ เกิดขึ้นตามใบหน้าและร่างกาย มักทำให้สูญเสียความมั่นใจและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากแผลเป็นในบางรายขึ้นตามจุดที่สังเกตได้ง่าย คนไข้จึงควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษา ด้วยวิธีการรักษาที่ถูกต้อง
